ศิลปะการเป่าแซกโซโฟน
เมื่อพูดถึงศิลปะการเป่าแซกโซโฟน แน่นอนที่สุดผู้เป่าต้องได้เรียนรู้ขั้นพื้นฐานอย่างดีแล้วซึ่งหมายรวมถึง การหายใจ การวางปาก ในบทต้น ๆ ส่วนในบทนี้จะกล่าวถึงศิลปะที่สูงขึ้นในการเป่าแซกโซโฟน
ทำอย่างไรจึงจะเป่าเก่ง ทำอย่างไรจึงจะพัฒนาไปสู่ความเก่งที่นักแซกโซโฟนทุกคนปรารถนา
การเป่าเก่งหรือจะพัฒนาไปสู่ความเก่งประกอบด้วยปัจจัย ดังนี้
- การวางนิ้ว
นิ้วทุกนิ้ววางอยู่บนแป้นนิ้วไม่เกร็ง การกดแป้นนิ้วในขณะที่เป่าเป็นไปตามธรรมชาติคือ ไม่กระแทก เมื่อปล่อยแป้นนิ้ว นิ้วจะไม่กระเด้งห่างออกจากแป้นนิ้วพยายามให้นิ้วติดอยู่กับแป้นนิ้วตลอดเวลา
- การฝึกความเร็วของนิ้ว
ระยะเวลาของตัวหยุด เมื่อจะเป่าให้นึกถึงเสียงที่จะเป่าก่อน ในขณะเดียวกันให้เปลี่ยนนิ้วไปยังเสียงที่จะเป่า ฝึกในทำนองเดียวกันนี้ตลอดทั้งบทฝึกในทุกบันไดเสียง พยายามฝึกอย่างช้า ๆ เพื่อสร้างสมาธิของนิ้วให้อยู่กับแป้นนิ้ว
การพัฒนาความเร็วของนิ้ว ต้องฝึกอย่างสม่ำเสมอจนเป็นกิจวัตร สิ่งที่ควรระมัดระวังคือ ไม่ควรเป่าให้เร็วเกินความสามารถที่จะควบคุมจังหวะ สำเนียงและความชัดเจนของเสียงได้การฝึกผิด ๆ จนติดเป็นนิสัย เป็นปัญหาที่ยากต่อการแก้ไข การฝึกอย่างเร็วนั้นควรเป็นความเร็วที่สามารถควบคุมได้ ทั้งจังหวะ สำเนียง และความชัดเจนในกรณีที่ไม่สามารถจะเป่าตรงที่ยาก ๆ ได้นั้น ควรจะลดความเร็วลงมา อุปกรณ์ที่ช่วยได้อีกอย่างคือ ดินสอดำ สำหรับทำเครื่องหมายในโน้ตเพลง เพื่อเตือนความจำว่าตรงที่เราผิดเราได้แก้ไขให้ดีขึ้นแล้วหรือยัง
แบบฝึกหัดการฝึกความเร็วของนิ้ว
ฝึกทุกบันไดเสียง ทั้งเมเจอร์และไมเนอร์ โดยฝึกตั้งแต่ตัวโน้ตที่ต่ำที่สุดไปจนถึงโน้ตที่สูงที่สุด ในแต่ละบันไดเสียง
ฝึกเป่าบันไดเสียงคู่ 3 ในทุก ๆ บันไดเสียง ดังตัวอย่าง
ฝึกเป่าขั้นคู่เสียง ในแต่ละคอร์ดทุกบันไดเสียง
- นิ้วแทน
นักแซกโซโฟนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักนิ้วแทนทุกนิ้ว แล้วฝึกจนสามารถนำมาใช้ได้ทันที เมื่อเห็นวลีเพลงที่จำเป็นจะต้องใช้นิ้วแทนโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาคิดว่าควรใช้นิ้วอย่างไร ฉะนั้นนิ้วแทนจึงเป็นเสมือนวิทยายุทธสำหรับนักแซกโซโฟน
ตัวอย่างวลีเพลงที่ใช้นิ้วแทน
F# นิ้วแทนควรจะใช้เมื่อวลีเพลงอยู่ในลักษณะบันไดเสียงโครมาติก คือ การไล่เสียงกันแบบครึ่งเสียง
B Flat นิ้วแทน B Flat นิ้วแทนมีให้เลือกใช้ได้ถึง 4 นิ้ว แต่ละนิ้วที่จะใช้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับวลีเพลง
- การใช้นิ้วลมและการใช้ลิ้น (Slur and Tonguing)
การใช้ลม
เป็นลักษณะของเสียงที่เป่าออกมา มีความติดต่อกันไม่ขาดระยะโดยใช้ลมเดียวกัน ตัวโน้ตที่เขียนจะมีเครื่องหมายการใช้ลมในลักษณะเส้นโค้งกำกับอยู่
ตัวโน้ตตัวแรกจะใช้ลิ้นเพียงตัวเดียว ส่วนตัวโน้ตที่ตามมาจะใช้ลมตลอดติดต่อกัน อาการของอวัยวะภายในปากจะอยู่กับที่ในขณะกระแสลมผ่านเข้าสู่กำพวด
การใช้ลิ้น
เป็นลักษณะของเสียงที่เป่าออกมาถูกแยกเสียงแต่ละเสียงออกจากกันโดยใช้ลิ้น ตัวโน้ตที่เขียนจะไม่มีเส้นโค้งกำกับอยู่
ถ้าต้องการให้เสียงมีช่องว่างระหว่างเสียงหรือมีเสียงสั้นมากยิ่งขึ้น ตัวโน้ตจะถูกประจุไว้ที่หัวเป็นเครื่องหมายแต่ค่าของตัวโน้ตยังคงเดิม
หมายเหตุ ตัวโน้ตทุกตัวถึงแม้จะมีเสียงสั้น แต่ยังมีสิทธิที่จะต้องเป่าอย่างมีคุณภาพ
อาการของลิ้นขณะเป่า
โดยกระดิกปลายลิ้นไปแตะด้านล่างของลิ้นแซกโซโฟน แล้วตวัดลิ้นกลับที่เดิม ในขณะเดียวกันกระแสลมที่เป่ายังพุ่งอยู่อย่างเดิมมิได้เปลี่ยนแปลง
การฝึกลิ้นเพื่อใช้ในการเป่า
ให้พูดคำว่า “ที” หรือ “ทา” อาการของลิ้นในขณะเป่าจะอยู่ในลักษณะเดียวกันเมื่อพูด “ดู” หรือ “ทู” ตั้งเครื่องเคาะจังหวะในอัตรา 60 เคาะต่อหนึ่งนาที
ข้อควรระวัง
พยายามฝึกด้วยอัตราจังหวะที่สามารถควบคุมได้ รวมทั้งค่าของตัวโน้ตทุกตัวต้องแน่ใจว่าเท่ากัน สำเนียงถูกต้อง การใช้นิ้วไม่เกร็งหรือไม่กระดกห่างจนเกินไป กระแสลมที่เป่ามีความสม่ำเสมอ
- เครื่องหมายและการถ่ายทอดความรู้สึกในเพลง
การบรรเลงดนตรีเป็นการถ่ายทอดภาษาของความรู้สึกที่มีต่อเพลง การที่จะถ่ายทอดอารมณ์หรือเข้าถึงอารมณ์ของเพลง ก็ต้องศึกษาองค์ประกอบของดนตรีเสียก่อน เช่น ตัวโน้ต แนวทำนอง แนวประสาน ลักษณะของเสียง เป็นต้น เมื่อเข้าใจองค์ประกอบแล้วถึงจะเข้าใจอารมณ์เพลงของตัวโน้ต เครื่องหมายต่าง ๆ ไม่ใช่ดนตรี สิ่งเหล่านี้เป็นแต่เพียงองค์ประกอบเท่านั้นที่จะเชื่อมโยงไปสู่ความเป็นดนตรี ความเป็นดนตรีจึงอยู่เหนือเครื่องหมายหรืออยู่เหนือตัวโน้ตนั่นเอง
ควรระลึกอยู่เสมอว่า ตัวโน้ตทุกตัวที่เป่าเป็นการเป่าดนตรี ซึ่งมีการถ่ายทอดทางอารมณ์ไม่ได้เป่าตัวโน้ต ความเป็นดนตรีของเสียงที่เป่าออกมา ต้องมีความหมายทางอารมณ์ ทำไมเสียงแตรรถไม่เป็นเสียงดนตรี ทำไมเสียงนกหวีดไม่เป็นเสียงดนตรี เพราะเสียงแตรรถ เสียงนกหวีดเป็นแต่เพียงเสียง ไม่ได้ถ่ายทอดอารมณ์ในแง่ดนตรี
- การจากไปของเสียงที่เป่า
การจากไปของเสียงที่เป่าหรือการหยุดเสียง มีอยู่ 4 ลักษณะด้วยกัน
1. หยุดโดยการเบาเสียง โดยค่อย ๆ เบาเสียงลงทีละน้อย ๆ จนหายไปในที่สุด
2. หยุดโดยการเบาเสียงเหมือนกันแต่เบาแล้วหยุดลมที่เป่า
3. หยุดลมที่เป่าแต่ไม่ต้องเบาเสียง
4. หยุดโดยทันทีทันใดโดยการใช้ลิ้นหยุด
1 ความคิดเห็น:
ขอบคุณทีนำความรู้ดีดีนะครับน้อง เล่นมานานยังครับ
พี่บิก
www.supreetihorn.com
www.ceciliamusic.com
แสดงความคิดเห็น